เมื่อมีอาการจะใช้ยาแก้ตกขาวยี่ห้อไหนดี
อาการตกขาวคืออะไร และถ้าหากเจอปัญหาจะใช้ยาแก้ตกขาวยี่ห้อไหนดี ในการรักษา
ยาแก้ตกขาวยี่ห้อไหนดี ต้องยาแก้ตกขาวคุณภาพเยี่ยมจาก poonrada ผลิตภัณฑ์คุณภาพผลิตจากสมุนไพรแท้ ด้วยกรรมวิธีการผลิตที่มีมาตรฐาน บวกกับทีมวิจัยในการพัฒนาสูตรและสรรพคุณต่างๆของตัวผลิตภัณฑ์ของเรา ให้สามารถรองรับ และบรรเทาปัญหาของโรคต่างๆ รวมไปถึงปัญหาสุขภาพได้หลากหลายอาการมากยิ่งขึ้น
ตกขาวคืออะไร
อาการตกขาว หรืออีกซื่อ เรียกว่าอาการ “มุตกิด” หรือ “ระดูขาว” เกิดกับเพศหญิงเท่านั้น โดยจะมีของเหลวประเภทหนึ่งที่มักจะถูกขับออกมาจากช่องคลอดของมนุษย์โยธรรมชาติ ซึ่งของเหลวประเภทนี้จะมีสีขาวคล้ายๆกับเมือก ไม่ใช่เลือด ส่วนใหญ่แล้วมักจะพบเห็นของเหลวชนิดนี้อยู่บริเวณช่องคลอด เนื่องจากเป็นจุดที่สามารถผลิตของเหลวชนิดนี้ออกมาได้ดีที่สุด ทั้งนี้ยังสามารถพบเห็นได้ในส่วนต่างๆ บริเวณอวัยวะเพศหญิง อาทิเช่น คลอด ปากมดลูก และอวัยวะข้างเคียงบริเวณปากช่องคลอด ซึ่งจะมีอาการแตกต่างกันออกไป ไม่มากนัก อาการตกขาวมักจะก่อความรำคาญให้กับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก เมื่อมีอาการรุนแรง จะมีกลิ่นคราว และมักจะมีอาการคันตามมาด้วย
ซึ่งอาการตกขาวสามารถจำแนกระเภทได้เป็น 2 แบบใหญ่ๆดังนี้
อาการตกขาวแบบปกติ อาการตกขาวประเภทนี้สังเกตได้จาก ร่างกายจะผลิตของเหลวตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นนี้ ซึ่งของเหลวดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นสีขาวขุ่น คล้ายแป้งเปียก ไม่มีกลิ่น
อาการตกขาวแบบไม่ปกติ อาการตกขาวประเภทนี้ จัดได้ว่าเป็นอาการตกขาวที่ก่อให้เกิดปัญหากับเพศหญิงเป็นอย่างมากเนื่องจาก จะเกิดอาการ แสบ อาการคันตามมาพร้อมกับกลิ่นคราวอันไม่พึงประสงค์อีกด้วย
สำหรับผู้อ่านท่านใดกำลังประสบปัญหากับอาการตกขาวอยู่แล้วและกำลังคิดว่าจะใช้ยาแก้ตกขาวยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำยาแก้ตกขาวจาก poonrada ที่ใช้แล้วรับรองว่าเห็นผลอย่างแน่นอน
ฝีคัณฑสูตรคืออะไร ฝีคือตุ่มหนองที่เกิดอาการอักเสบใต้ผิวหนังโดยหนองที่เกิดนั้นจะมีกลิ่นเหม็น
ฝีอาการผิดปรกติของร่างกายที่สามารถเกิดได้ตามจุดปรกติทั่วไปของร่างกายโดยมีสาเหตุหลักๆ เลยก็คือเกิดจากการที่เซลล์เม็ดเลือดขาวเซลล์ของผิวหนังที่ตายแล้วกับเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ เกิดการทำปฏิกิริยากัน ซึ่งเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดฝีนั้นก็คือสแตฟิโลค็อกตัสโดยความรุนแรงและอันตรายของฝีนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไปโดยฝีที่เกิดภายนอกร่างนั้นอาจจะไม่มีความรุนแรงเท่ากับฝีที่เกิดภายในร่างกายเพราะสามารถหายไปเองได้ตามธรรมชาติและทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดความใหญ่ของฝีอีกด้วยแต่ถ้าหากเป็นฝีที่เกิดภายในร่างกายจะต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อได้รับการรักษาและดูแลอย่างถูกต้อง

ฝีภายในและภายนอกร่างกายนั้นแตกต่างกันอย่างไร ฝีภายนอกหรือฝีที่เกิดขึ้นในบริเวณผิวหนังฝีลักษณะนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไปอาจจะพบมาในบริเวณใต้ร่มผ้าหรือบริเวณหนังศีรษะหรือในบริเวณรากผมโดยสาเหตุนั้นอาจจะเกิดมาจากการติดเชื้อและสมสมของแบคทีเรียโดยอาการและผลข้างเคียงจะมีอาการแสบคันและบวมแดงของฝีแต่สามารถทำการรักษาให้หายได้โดยการใช้น้ำอุ่นมาประคบบริเวณที่เป็นฝีประมาณครึ่งชั่วโมงโดยทำ 3-4 ครั้งต่อวันเพื่อทำให้เกิดความร้อนในบริเวณที่เป็นฝีและเร่งทำให้ฝีแตกเร็วขึ้น
ฝีคัณฑสูตร ที่มาของฝีคัณฑสูตรนั้นก็คล้ายๆ กับฝีรูปแบบธรรมดาคือเกิดการติดชื้อจากแบคทีเรียในต่อมส่วนหนึ่งในรูทวารโดยฝีคัณฑสูตรนั้นสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือฝีแบบเรื้อรังและฝีแบบเฉียบพลันโดยอาการนั้นมักจะพบว่ามีอาการบวมและเจ็บบริเวณทวารหนักและปวดบวมในบริเวณแก้มก้นยิ่งโดยเฉพาะเวลาที่เบ่งหรือขับถ่ายอุจจาระนั้นจะมีอาการเจ็บมากยิ่งขึ้น
โดยวิธีการรักษานั้นแพทย์มักจะให้ยาปฏิชีวนะในการฆ่าเชื้อโรคโดยวิธีนี้มักจะใช้กับฝีคัณฑสูตรแบบเฉียบพลันแต่สำหรับฝีคัณฑสูตรแบบเรื้อรังนั้นส่วนมากจะต้องได้รับการรักษาโดยวิธีการผ่าตัดโดยโรคนี้ถือว่าเป็นโรคที่ไม่ค่อยที่จะพบเจอได้บ่อยมากนักแต่เมื่อเป็นแล้วก็จะสร้างความเจ็บปวดและทรมานให้ผู้ที่เป็นอย่างมากเพราะฉะนั้นการรักษาที่ถูกต้องและการดูแลหลังการรักษาจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากพอสมควร
ใบบัวบกสมุนไพรไทยรักษาโรคนานาชนิด
สมุนไพรรักษาโรคหรือพืชผักสมุนไพรที่สามารถพบได้ทั่วไปมีสรรพคุณทั้งทางยาและต่อร่างกายไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม
เป็นที่รู้ดีกันทั่วไปทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศว่าสมุนไพรรักษาโรคของไทยนั้นมีคุณประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็นด้านการบำรุงรักษาร่างกายหรือในด้านของความสวยความงามยกตัวอย่างสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์อย่างมากมายแต่คนไทยไม่ค่อยที่จะรู้จักประโยชน์ของมันมากนักก็คือใบบัวบก โดยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศในแถบเอเชียอย่างเช่นประเทศอินเดีย จีน อินโดนีเซีย ศรีลังกา และประเทศในแถบอเมริกาใต้โดยใบบัวบกนั้นเป็นสมุนพรที่มีรสเย็นช่วยในการดับร้อน มีรสขม เผ็ด ในทางด้านแพทย์แผนจีนได้กล่าวไว้ว่าใบบัวบกนั้น สามารถเข้าเส้นลมปราณ หัวใจ ปอด ม้าม ตับและไตได้แต่ถึงจะมีประโยชน์และสรรพคุณมากก็ไม่ใช่ว่าใบบัวบกจะเหมาะกับสภาพร่างกายของทุกคนโดยใบบัวบกหรือสมุนไพรรสเย็นนั้นจะเหมาะกับคนที่เป็นธาตุร้อนไม่เหมาะกับคนที่มีธาตุเย็นหรือคนที่ไม่ชอบหนาวท้องอืด ในบางตำรามีการกล่าวอ้างอิงไว้ว่ามีแพทย์แผนจีนคนหนึ่งสามารถมีอายุได้ถึง 200 ปีเพราะว่าการรับประทานใบบัวบกประจำๆ
โดยประโยชน์ทั่วๆ ไปของใบบัวบกนั้นก็คือ
1.เป็นยาอายุวัฒนะ
2.ช่วยในการกระตุ้นและเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกาย
3.ช่วยเพิ่มความสามารถในการจำและทำให้สมองพัฒนาได้ดีขึ้น
4.ช่วยในเรื่องของการมองเห็นและการบำรุงประสาท
5.มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยให้ลดการเสื่อมและการเหี่ยวย่นของร่างกาย
6.ช่วยในเรื่องของสมาธิสำหรับคนที่สมาธิสั้น
7.ช่วยในเรื่องอาการปวดศีรษะข้างเดียว
8.ช่วยบำรุงโลหิต
9.ช่วยบำรุงหัวใจ
10. ช่วยแก้อาการแก้ทองเสียและช่วยให้เจริญอาหาร
นี่เป็นเพียงสรรพคุณของใบบัวบกแค่ไม่กี่ข้อเท่านั้นโดยรวมๆแล้วใบบัวบกมีคุณประโยชน์มากมายหลายร้อยข้อไม่ว่าจะเป็นเรื่องของด้านร่างกายที่ช่วยในการบำรุงร่างกายจากภายในจนสามารถสังเกตได้จากภายนอกและการนำมาใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคและบำรุงผิวหน้าซึ่งในการวิจัยพบว่าในบัวบกนั้นมีสารจำเป็นและสามารถช่วยบำรุงสภาพผิวหน้าของคนเราได้จึงมีการนำใบบัวบกที่พบได้มากในเอเชียไปสกัดเป็นเป็นส่วนผสมหลักๆ ในครีมยี่ห้อดังต่างๆ
แนะนำวิธีแก้หน้าลอกที่แสนง่าย
หลายๆคนกำลังมองหาวิธีแก้หน้าลอก เพราะผิวที่ลอกนั้นส่งผลทำให้ผิวหน้านั้นบางและไวต่อแดดมาก
อาการหน้าลอกจริงๆแล้วเป็นลักษณะอาการความผิดปรกติบนผิวหน้าที่สามารถพบเจอได้บ่อยทั่วไปแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอาการและความรุนแรงของอาการ โดยหลักแล้วอาการหน้าลอกนั้นจะเกิดจากบุคคลหรือกลุ่มคนที่มีสภาพของผิวหน้าที่แห้งง่ายไม่ว่าจะเป็นจากสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตหรือจากสภาพของพันธุกรรมซึ่งจะส่งผลให้เห็นได้อย่างชัดเจนแต่เมื่อเรามีสภาพผิวหน้าแห้งแล้วสิ่งที่จะตามมาถ้าหากเรายังไม่ได้บำรุงหรือดูแลรักษาหน้าของเราให้ดีนั่นก็คืออาการหน้าลอกเป็นขุยซึ่งค่อนข้างที่จะเป็นปัญหาใหญ่เลยทีเดียวสำหรับสาวๆ ในยุคนี้เพราะสาวๆจะต้องมีการแต่งหน้าซึ่งจะต้องใช้ทั้งรองพื้นและแป้งชนิดต่างๆ ลงมาบนยังผิวหน้าซึ่งถ้าหากผิวของสาวๆ ไม่มีความชุ่มชื่นที่มากพอหรือไม่มีความชุ่มชื่นเลยเครื่องสำอางและแป้งต่างๆก็จะไม่สามารถเกาะอยู่บนผิวหน้าของเราได้เลย

ยกตัวอย่างเหมือนกับถนนที่แห้งแตกและมีอากาศที่ร้อนอบอ้าวไม่มีแม้แต่ฝนที่ตกลงมาสักหยดแน่นอนว่าจะต้องมีฝุ่นเกาะอยู่เต็มท้องถนนไปหมดซึ่งถ้าเกิดลมหรือพายุมาฝุ่นที่เกาะอยู่ตามท้องถนนก็จะถูกพัดพาออกไปด้วยซึ่งแตกต่างกันเมื่อเปรียบเทียบกับถนนที่มีน้ำหรือมีฝนตกลงมาบ้างทำให้ถนนชุ่มไปด้วยน้ำทำให้มีฝุ่นถูกพัดไปตามอากาศน้อยลง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสภาพผิวหน้าของเราแล้วทำอย่างไรจึงจะช่วยลดอาการหน้าลอกจากสภาพผิวหน้าที่แห้ง อย่างแรกที่เราจะต้องรู้ก่อนเลยก็คือ อาการหน้าลอกที่เรากำลังเจออยู่นั้นเป็นอาการหน้าลอกที่เกิดจากสภาพผิวหน้าที่แห้งหรือเกิดจากสภาพหน้าที่แพ้เครื่องสำอางบางชนิดเพราะอาจจะทำให้เกิดอาการหน้าลอกได้เช่นกันซึ่งถ้าหากอาการหน้าลอกนั้นเกิดมาจากการแพ้เครื่องสำอางนั้นควรจะพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจะดีที่สุด
วิธีแก้หน้าลอกที่ถูกต้องควรจะเริ่มจากการใช้ชีวิตประจำวันดังนี้
1.หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น เพราะการอาบน้ำอุ่นบ่อยๆ หรือตลอดนั้นยิ่งจะส่งผลทำให้หน้าแห้งและลอกมากยิ่งขึ้น
2.ทาครีมบำรุงเข้มข้นทันทีหลังจากที่อาบน้ำหรือล้างหน้าเสร็จ เพราะช่วงที่เราล้างหน้าหรืออาบน้ำเสร็จใหม่ๆ นั้นผิวหน้าและผิวร่างกายของเรานั้นจะขาดน้ำและความชุ่มชื้นและสำหรับคนผิวแห้งยิ่งจะมีความรุนแรงกว่าคนปรกติสองเท่าเพราะฉะนั้นการทาครีมบำรุงหรือมอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้นหลังล้างหน้าจะช่วยถนอมผิวหน้าได้มากขึ้น
3.ไม่ใช้ครีมหรืออุปกรณ์ที่ทำความสะอาดหน้าด้วยแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะยิ่งทำให้ผิวหน้าถูกทำร้ายมากยิ่งขึ้นและมีอาการผิวหน้าลอกที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นโดยหันมาใช้ครีมหรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของออยจะดีต่อผิวหน้ามากกว่า
4.มาร์คหน้าบ่อยๆ สครับหน้าให้น้อยลง โดยการมาร์คหน้าก็เหมือนกับการทาครีมบำรุงที่เข้มข้นเพื่อให้ผิวทั้งได้รับการบำรุงจากสารอาหารต่างๆ และได้รับการพักผ่อนโดยควรจะแช่มาร์คไว้ในตู้เย็นก่อนการนำมาใช้ยิ่งจะทำให้มาร์คหน้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและลดการสครับหน้าให้น้อยลงเพราะการสครับหน้าบ่อยๆสำหรับคนผิวหน้าแห้งยิ่งจะเป็นการทำร้ายผิวหน้าและทำให้ผิวหน้าเกิดการโดนทำร้ายมากกว่าเดิม
ถ้าหากคุณปฏิบัติตามวิธีแก้หน้าลอกข้างต้นนี้ เชื่อเลยว่าผิวหน้าของคุณจะเรียบเนียนสวยตามที่ต้องการอย่างแน่นอน
สมุนไพรพื้นบ้านกับการรักษาเบาหวาน
สมุนไพรเบาหวาน ที่มีสรรพคุณทางยาไม่ว่าจะเป็นการช่วยในเรื่องของการรักษาโรคและช่วยบรรเทาอาการต่างๆให้หายได้
อย่างที่เรารู้ๆ กันเลยก็คือว่าโรคเบาหวานนั้นเป็นโรคที่มีปริมาณของน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปรกติที่ควรจะเป็นเพราะฉะนั้นการรักษาไม่ว่าจะเป็นการรักษาโดยหมอแพทย์ปัจจุบันหรือการใช้สมุนไพรเบาหวานซึ่งส่วนมากแล้วมักจะเป็นการลดปริมาณน้ำตาลในเลือดลงเพื่อการทำงานของร่างกายที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ความอันตรายของโรคเบาหวาน อย่างที่เรารู้ๆ กันว่าโรคเบาหวานนั่นเป็นโรคที่อาจะทำให้ น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว มีอาการอ่อนเพลียง่าย ปัสสาวะบ่อยผิดปรกติ แผลเกิดการแห้งหรือหายช้ากว่าปรกติ ซึ่งนอกจากอาการเหล่านี้แล้วโรคเบาหวานยังสามารถนำพาโรคและอาการอันตรายต่างๆ มายังเราได้ไมว่าจะเป็นอาการเบาหวานขึ้นตาโดยอาการนี้เกิดมาจากการที่หลอดเลือดในดวงตาโป่งพองนั้นเกิดความผิดปรกติจึงเกิดเป็นเลือดและน้ำหนองไหลออกมาจากตาโดยถ้าไม่รักษาให้ทันเวลาอาจจะเกิดอาการจอตาอันตรายได้

สำหรับวิธการรักษาเบาหวานในปัจจุบันนั้นมักจะทำการรักษาโดยการให้สารอินซูลินแก่คนไข้เนื่องจากคนที่เป็นโรคเบาหวานั้นมีสาเหตุมาจากตับไม่สามารถสร้างสารอินซูลินได้เพียงพอเพราะสารอินซูลินนั้นจะเป็นสารที่นำพาน้ำตาลและสารอาหารต่างๆ นั้นไปหล่อเลี้ยงและทำให้ร่างกายส่วนต่างๆ ได้รับการพัฒนาและเติบโตแต่เมื่อสารอินซูลินไม่เพียงพอหรือมีน้อยน้ำตาลที่ได้จากการรับประทานอาหารนั้นก็ไม่สามารถที่จะไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้จึงทำให้น้ำตาลในเลือดมีปริมาณที่สูงขึ้น
เบาหวานกับสมุนไพรจริงๆ แล้วเทคโนโลยีและการแพทย์ของเรานั้นได้พัฒนาไปอย่างมากแล้วยาที่ใช้ในการรักษาโรคเบาหวานนั้นก็มีการพัฒนาตามยุคตามสมัยและเทคโนโลยีแต่ถึงกระนั้นก็ยังมีกลุ่มคนที่ชื่นชอบและเชื่อว่าวิธีการรักษาโรคต่างๆ โดยวิธีการใช้สมุนไพรนั้นยั่งยืนและปลอดภัยมากกว่าถ้าเปรียบเทียบในระยะยาว
โดยสมุนไพรเบาหวานนั้นมีหลากหลายตัวอย่างเช่น
1.มะระขี้นก หลายคนคงคุ้นชื่ออยู่บ้างแต่ในเด็กในปัจจุบันน้อยคนที่จะรู้จักสมุนไพรชนิดนี้โดยมะระขี้นกได้ชื่อว่าเป็นสมุนไรที่ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดและยังสามารถช่วยการในการเพิ่มการสร้างสารอินซูลินที่ตับสร้างมาไม่พออีกด้วยนอกจากประโยชน์การฟืนฟูและช่วยเรื่องโรคเบาหวานแล้วมะระขี้นกยังสามารถช่วยในด้านอื่นๆ อีกมากมายนับได้ว่ามีประโยชน์มากมายเลยทีเดียว
2.เห็ดหลินจือ หนึ่งในสุดยอดสมุนไพรที่นอกจากสรรพคุณที่จะช่วยในการยับยั้งเซลล์มะเร็งแล้วยังสามารถช่วยบรรเทาและดูแลรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานได้อีกด้วย เพราะในเห็ดหลินจือนั้นยังสามารถช่วยในการเพิ่มการผลิตสารอินซูลินได้ซึ่งพบได้น้อยในกลุ่มของผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน
3.ชาเขียว น้อยคนนักที่จะรู้ว่าในชาเขียวนั้นมีประโยชน์มากมายรวมไปถึงการช่วยดูแลเรื่องของโรคเบาหวานโดยชาเขียวนั้นจะช่วยในการลดปริมาณของน้ำตาลในเลือดและลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดในผู้ที่เป็นเบาหวานอีกด้วย
จากตัวอย่างสมุนไพรเบาหวาน ข้างต้นแสดงให้เห็นว่าสมุนไพรล้วนมีสรรพคุณและประโยชน์มากมายนับไม่ถ้วนขึ้นอยู่กับเราว่าจะเลือกใช้อย่างไรให้ถูกต้องและเหมาะสม
อาการกรดไหลย้อนกินอะไรหาย
อาการการจุกเสียดแสบบริเวณหน้าอกที่เรียกว่ากรดไหลย้อนกินต้องกินอะไรถึงจะหาย
อาการกรดไหลย้อนหรืออาการที่มีการจุกเสียดหรือแสบบริเวณหน้าอกเกิดมาจากกรดที่อยู่ในกระเพาะอาหารของมนุษย์เราไหลย้อนขึ้นมาตามท่อทางเดินอาหารซึ่งท่อบริเวณทางเดินอาหารในร่างกายมนุษย์นั้นไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรับกับสภาพของกรดที่เข้มข้นโดยสาเหตุที่เกิดกรดไหลย้อนเพราะว่าหูรูดในบริเวณกระเพาะอาหารนั้นบกพร่องหรือเสื่อมสภาพ
เนื่องจากกระเพาะอาหารของมนุษย์เรานั้นออกแบบมาเพื่อย่อยและทำให้อาหารที่เราได้รับประทานมานั้นเกิดการย่อยสลายกลายเป็นสารอาหารที่ไปหล่อเลี้ยงร่างกายจึงทำให้เนื้อเยื่อหรือชั้นผิวหนังของเราในบริเวณกระเพาะนั้นถูกออกแบบมาให้หนาและทนทานต่อกรดมากแต่ในบริเวณส่วนอื่นๆของร่างกายนั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกับกรดที่เข้มข้นจึงอาจจะถูกกรดจากกระเพาะทำอันตรายได้ร่างกายจึงตอบสนองด้วยอาการที่เจ็บแสบในบริเวณที่กรดได้ไหลไป
เมื่อเวลามีอาการจากกรดไหลย้อนต้องทำอย่างไร
1.ถ้าหากคุณเป็นคนที่มีอาการกรดไหลย้อนบ่อยๆ นั้นวิธีการแก้ไขเบื้องต้นคือคุณควรจะแก้ไขเบื้องต้นโดยการลดปริมาณการรับประทานอาหารจากปริมาณมากๆ ในแต่ละครั้งลดลงมาเป็นรับประทานครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยๆ เพราะการที่เรารับประทานอาหารครั้งละมากๆ ในครั้งเดียวนั้นจะทำให้เกิดแก๊สและแรงดันในกระเพาะมากและจะทำให้หูรูดในกระเพาะอาหารคลายลงและทำให้กรดไหลย้อนขึ้นไปตามทางเดินอาหาร
2.เคี้ยวอาหารให้ละเอียดมากขึ้น ก่อนที่จะกลืนอาหารลงกระเพาะ เนื่องจากการที่เราเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดและกลืนลงกระเพาะจะเป็นการเพิ่มแก๊สและแรงดันในกระเพาะอาหารให้มากขึ้น
3.หาเตียงที่มีหัวเตียงสูง หรือหาหมอนมาหนุนให้สูงกว่าแนวราบของเตียง เพราะสามารถช่วยลดอาการกรดไหลย้อนได้
ส่วนเรื่องที่ว่ากรดไหลย้อนกินอะไรหาย นั้นเราขอแนะนำยาสมุนไพรรักษากรดไหลย้อน Balance ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยรักษาอาการกรดไหลย้อนได้เป็นอย่างดี หากสนใจสั่งซื้อยาสมุนไพรรักษากรดไหลย้อน Balance สามารถติดต่อได้ที่ โทร: 086-955-6366 หรือ
Inbox: https://www.facebook.com/messages/t/242366902552119 หรือ
Line id : @poonrada
โรคฝีคัณฑสูตร คืออะไร ไขข้อข้องใจกับ poonrada
ฝีคัณฑสูตร ไม่ใช่เรื่องไกลตัวของเรา และส่วนมากแล้วมักจะพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง
ฝีคัณฑสูตร ปัญหาร้ายแรงของโรคทางทวารหนัก ไม่ใช่เรื่องไกลตัวของเราพบได้ทั่วไปในบุคคลทุกเพศทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ซึ่งโรคดังกล่าวมีลักษณะอาการเกิดรูขึ้นข้างในทวารหนักของมนุษย์ ด้วยปัญหาเหล่านี้มันไม่ใช่เรื่องไกลตัวของเราดังนั้นเราจึงไม่ควรมองข้าม ซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดถึงสาเหตุของโรค อาการ รวมไปถึงวิธีการบรรเทาอาการเมื่อเกิดโรคขึ้น
ปัญหาโรคฝีคัณฑสูตรโดยส่วนมากแล้วประมาน 70 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เป็นโรคดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเป็นฝีที่บริเวณทวารหนัก หรือผู้ที่เคยเป็นแผลบริเวณทวารหนัก ส่วนมากแล้วมักจะพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ถ้าเทียบอัตราประชากรบนโลก ทุกๆ100,000 คน จะมีประชากรบนโลกประมาณ 8 คน มีอาการโรคฝีคัณฑสูตร
สำหรับผู้ป่วยผู้มีอาการของโรคดังกล่าว ให้สังเกตได้จากอาการเบื้องต้นเหล่านี้
1.บริเวณขอบรูทวารหนัก แก้มก้น มีอาการปวด หรือปวดมากๆ
2.มีน้ำหนอง หรือ น้ำเหลืองไหลซึ่งมออกมาเป็นระยะ ในบางกรณีอาจจะมีเลือดปะปนมากับน้ำหนองด้วย
3.ผิวหนังบริเวณรูทวารมีอาการระคายเคือง เป็นสีแดงอันเกิดมาจากอาการอักเสบ ถ้าหากมีอาการดังต่อไปนี้ให้พิจารณาตัวเองไว้ก่อนว่าท่านกำลังมีอาการฝีคัณฑสูตร และควรรีบไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำปรึกษาในการรักษาโดยด่วน
การป้องกันโรคฝีคัณฑสูตรมีวิธีการคร่าวๆดังต่อไปนี้
1.ระวังการเกิดแผลร้ายแรงบริเวณปากทวารหนัก เป็นวิธีที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาดังกล่าวได้จากต้นเหตุ
2.รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ อาทิเช่น สมุนไพรรักษารีดสีดวง ฝีคัณฑสูตร ของ poonrada เพราะถือได้ว่าเป็นสมุนไพรชั้นยอดในการแก้ปัญหาสุขภาพต่างๆจากภายในร่างกาย นอกจากนี้แล้วควรรับประทานผักและผลไม้เพิ่มมาก เพื่อป้องกันอาการท้องผูกอีกด้วย
ถ้าหากท่านอ่านบทความข้างต้นนี้และทำความเข้าใจถึงปัญหา สาเหตุและการการของโรค ฝีคัณฑสูตร อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว มั่นใจได้เลยว่าสามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอาการดังกล่าวได้มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์